อากาศในอาคารเอง ก็ต้องได้รับการทำความสะอาดเหมือนกันนะ เรามักคิดว่ามลพิษทางอากาศ เป็นสิ่งที่อยู่ภายนอกบ้าน แต่ความจริงคือ อากาศภายในบ้าน และ อาคารต่าง ๆ อาจมีมลพิษมากกว่าอากาศได้ เพราะอากาศแต่ละที่ ล้วนมีความเชื่อมโยงกัน นอกจากนี้ อากาศภายในอาคาร ยังมักจะเป็นพื้นที่ปิด ที่ไม่มีการหมุนเวียนอีกด้วย การที่เราคิดว่า อากาศภายในอาคาร สะอาดกว่าข้างนอก เราจึงมักจะทำให้ ละเลยสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุด ซึ่งนั่นก็คือ คุณภาพของอากาศในอาคาร ที่เราใช้ชีวิตอยู่เป็นส่วนใหญ่ทุกวัน ดังนั้น เพื่อสุขภาพของเรา เราจึงควร ทำความสะอาดอากาศในบ้าน เพื่อสุขภาพที่ดีของเรา แต่พูดลอย ๆ ก็ดูไม่ยาก แต่เพราะอากาศเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ แล้วเราจะทำความสะอาดอากาศในบ้านยังไง เรามาเริ่มไปทีละขั้นกันดีกว่า
อะไรบ้างที่ทำให้เกิดมลพิษในอาคาร
- ควันบุหรี่ ในบุหรี่นั้น มีสารต่าง ๆ มากมาย ซึ่งสารเหล่านั้น จำนวนมาก ก่อนให้เกิดผลลบกับสุขภาพ
- สารพิษที่ลอยมาตามอากาศ ละอองสารระเหย ควันจากการเชื่อมเหล็ก
- สารระเหยและก๊าซ มีสารระเหยจำนวนมากอยู่กับเฟอร์นิเจอร์ของเรา ยิ่งเฟอร์นิเจอร์ใหม่ สารระเหยที่ใช้เพื่อการเก็บรักษาจำนวนมากก็ยังไม่หมดไป
- สารเคมี การใช้น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาเช็ดสีทาเล็บ ล้วนเป็นสารเคมีที่เรามักจะคุ้นเคย และใช้กันทั่วไปภายในบ้าน
- การเผาไหม้ ควันจากการเผาใบไม้ หรือ ขยะ หรือแม้แต่หมูกระทะที่ไหม้จนดำเกรียม ก็ล้วนก่อนให้เกิดสารอันตราย
- เชื้อรา ประเทศไทยเป็นประเทศในเขตร้อนชื้น การหลีกเลี่ยงการเกิดเชื้อรานั้นทำได้ยาก เชื้อราอาจอยู่ได้ทุกที่ ตั้งแต่ห้องน้ำ ที่นอน ไปจนถึงภายในเครื่องปรับอากาศ
- ไรฝุ่น ที่นอน หมอน มุ้ง รวมไปถึงฟูกต่าง ๆ แม้แต่ตุ๊กตาน่ารัก ๆ ที่คนสำคัญให้มา มีโอกาสเป็นรังของไรฝุ่นได้อย่างง่ายดาย
- จุลินทรีย์ สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ตัวร้าย ที่มักจะลอยตามลมมา และมักทำให้เราไม่สบาย
- การใช้น้ำหอม น้ำหอมที่มีกลิ่นรุนแรง หลายคนก็ไม่ได้ปลื้ม ในความเข้มข้นของกลิ่นที่อัดแน่นในพื้นที่ปิด
- จากคนที่นำมลพิษเข้าไปในอาคาร การเปิดประตูเข้าออกภายในอาคาร คนเหล่านั้นมีโอกาสที่จะพามลพิษติดตัวเข้าไปกับเสื้อผ้าได้
แม้ว่าทุกคน จะตอบสนองต่อมลพิษทางอากาศภายในอาคารแตกต่างกัน แต่อาการที่พบบ่อย จากคุณภาพอากาศที่ไม่ดี ได้แก่ การระคายเคืองตา จมูก และ คอ อาการปวดหัว เวียนหัว อ่อนเพลีย นอกจากนี้ มลพิษทางอากาศในระยะยาวอาจขยายไปถึงโรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง
วิธีที่ช่วยให้อาคารมีแต่อากาศที่บริสุทธิ์
การทำความสะอาดช่วยให้อากาศดีขึ้นได้
การทำความสะอาดไม่ใช่แค่นิสัยที่ดี แต่การทำความสะอาดบ้านหรืออาคารเป็นประจำสามารถช่วย ทำความสะอาดอากาศในบ้าน ลดสิ่งสกปรก และ อนุภาคขนาดเล็ก ที่อาจทำให้เราป่วย หรือเป็นโรคภูมิแพ้ได้
วิธีทำความสะอาดที่ช่วยให้อากาศในบ้านบริสุทธิ์
- กำจัดฝุ่นและไรฝุ่น ดูแลพื้นและพื้นผิวสิ่งของในบ้านให้สะอาดด้วยการปัด กวาด เช็ด ถู และดูดฝุ่นเป็นประจำ โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นผ้าและพรมที่เป็นแม่เหล็กดูดสิ่งสกปรกขนาดเล็กชั้นดี ยิ่งเราสามารถกำจัดอนุภาคขนาดเล็กออกจากอากาศในบ้านได้มากเท่าไหร่ อากาศก็จะยิ่งสะอาดมากขึ้นเท่านั้น
- ซักผ้าทุกชนิดในบ้านให้สะอาด ไรฝุ่น เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว และสิ่งสกปรกทุกชนิด สามารถซ่อนตัวอยู่ในผ้าทุกชนิดในบ้าน การซักผ้าให้สะอาด สามารถลดความสกปรกและกลิ่นอับในบ้านได้
- กำจัดเชื้อรา เชื้อราสามารถปล่อยสปอร์สู่อากาศ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้ เพราะฉะนั้นระวังอย่าให้บ้านชื้นเกินไปและคอยกำจัดเชื้อราอยู่เสมอ
- เก็บรองเท้าในชั้นที่มิดชิด การเก็บรองเท้าไว้ในตู้ที่มิดชิดช่วยป้องกันสิ่งสกปรกไม่ให้ฟุ้งกระจายในบ้าน เพราะรองเท้าสามารถลากแบคทีเรีย สิ่งสกปรก และสารก่อภูมิแพ้ทุกชนิดเข้ามาในบ้านได้ และเพื่อความสะอาด ควรเช็ดและกำจัดฝุ่นในชั้นเก็บรองเท้าอย่างสม่ำเสมอ
- นำอาหารหมดอายุไปทิ้ง การเก็บอาหารนานเกินไปจนเน่าเสียและเกิดเชื้อรา อาจส่งผลกระทบต่ออากาศในห้องครัวและส่วนอื่น ๆ ในบ้าน
- ทำความสะอาดช่องระบายอากาศ ไม่ว่าจะเป็นพัดลมดูดอากาศ ที่ดูดควัน หรือมุ้งลวด ต้องไม่มีฝุ่นสะสม เพื่อให้อากาศในบ้านหมุนเวียนได้ดีไม่ติดขัด
- กำจัดขยะทุกวัน ขยะสามารถแพร่เชื้อโรคและส่งผลต่อคุณภาพอากาศได้ เพราะเศษอาหารเก่าจะดึงดูด หนู มด แมลงสาบ และเชื้อมายังบ้านของเรา
- จัดบ้านให้เป็นระเบียบ ฝุ่นและมลพิษสามารถก่อตัวขึ้นได้อย่างรวดเร็วในพื้นที่ที่รก ดังนั้นจึงต้องกำจัดสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกจากบ้านเพื่อลดพื้นที่สะสมฝุ่น
- ล้างแอร์สม่ำเสมอ เพราะเราจะไม่ได้อากาศที่สดชื่นเลยถ้าแอร์มีแต่ฝุ่นและสิ่งสกปรกสะสมภายใน
การระบายอากาศทำให้อากาศสดชื่น
- เพิ่มพัดลม เพื่อให้อากาศในอาคารไหลเวียนมากขึ้น แต่อย่าลืมทำความสะอาดพัดลมเพื่อกำจัดฝุ่นอย่างสม่ำเสมอด้วย
- เปิดหน้าต่าง/ประตู การเปิดหน้าต่าง/ประตูเพื่อระบายอากาศเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการแลกเปลี่ยนอากาศภายในอาคารที่อับกับอากาศภายนอกที่สดชื่น
- ระบายอากาศในครัว เตาแก๊สเป็นตัวปล่อยไนโตรเจนไดออกไซด์ ซึ่งระดับไนโตรเจนไดออกไซด์ที่มากเกินไปอาจนำไปสู่อันตรายต่อสุขภาพ เช่น โรคปอด และหลอดลมอักเสบเฉียบพลันหรือเรื้อรัง ทุกครั้งที่ทำอาหารจึงต้องระบายอากาศในครัวให้ได้มากที่สุด
- ติดพัดลมดูดอากาศ พัดลมดูดอากาศเป็นทางเลือกที่ดี ที่จะช่วยระบายอากาศที่ไม่ดีออกไปข้างนอก
สร้างนิสัยที่ดีเพื่อบ้านที่สะอาดและอากาศที่บริสุทธิ์
- หยุดสูบบุหรี่ในบ้าน บุหรี่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ควันบุหรี่มือสองสามารถเกาะอยู่บนผนัง หน้าต่าง และพื้นผิวทั่วบ้านได้นาน ดังนั้นเพื่อช่วยให้อากาศในบ้านหรืออาคารสะอาดสำหรับทุกคน จึงควรหยุดสูบบุหรี่ในบ้าน
- ปิดฝาชักโครกก่อนกด การกดชักโครกสามารถปล่อยของเสียสู่อากาศในห้องน้ำได้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ให้ปิดฝาก่อนกดชักโครกให้เป็นนิสัย
- เปิดหน้าต่างเมื่อใช้สารเคมี หากมีการใช้สารเคมีใดๆ ในบ้าน ต้องระบายอากาศเสมอ เปิดหน้าต่าง/ประตู เปิดพัดลมพัดลมดูดอากาศ เพื่อกำจัดสารเคมีออกจากบ้าน
- อย่าติดสตาร์ทรถทิ้งไว้ในบริเวณบ้านนานเกินไป เพราะรถจะปล่อยไอเสียเข้ามาในบ้านของเรา
ใช้ตัวช่วยให้อากาศบริสุทธิ์
- น้ำมันหอมระเหย น้ำมันหอมระเหยบางชนิดมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา เพื่อให้อากาศสดชื่นขึ้น ลองหยดน้ำมันหอมระเหยลงในภาชนะใส่น้ำและวางไว้ตามมุมต่างๆ ของบ้านหรืออาคาร
- ตกแต่งบ้านด้วยต้นไม้ พืชในร่มหลายชนิดสามารถฟอกอากาศและกรองสารระเหยภายในอาคาร เช่น เบนซิน ฟอร์มาลดีไฮด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ และไนโตรเจนไดออกไซด์ การปลูกต้นไม้ไว้ในอาคาร จึงสามารถช่วยให้อากาศในอาคารดีขึ้นได้
- ถ่าน ถ่านไม่มีกลิ่นและมีคุณสมบัติดูดซับสูง จึงสามารถกำจัดสารพิษในอากาศได้
- ใช้เครื่องฟอกอากาศ เครื่องฟอกอากาศเป็นวิธีที่ดีในการลดอนุภาคที่เป็นอันตรายในอากาศ และยังช่วยให้อากาศไหลเวียนได้ดี
การทำความสะอาดถือเป็นรากฐานสำคัญของสุขภาพที่ดี แม้แต่อากาศก็ต้องได้รับการทำความสะอาดเพื่อให้เราหายใจได้อย่างมั่นใจทุกวัน หากคุณภาพอากาศไม่ดี ชีวิตเราลำบากแน่ เพราะทุกสรรพสิ่งที่มีชีวิตบนโลกมีชวิตอยู่ได้ด้วยอากาศบริสุทธิ์ อายุเราจะยืนยาวหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าอากาศที่เราสูดเข้าไปนั้นคุณภาพดีแค่ไหน เพราะฉะนั้นอย่าลืมดูแลบ้านให้สะอาดเพื่อช่วยให้อากาศในบ้านบริสุทธิ์อยู่เสมอ
ดีคลีน บริการรับทำความสะอาด ทั้งแบบ Big Cleaning และแม่บ้านประจำพื้นที่
สนใจติดต่อ Line: @dklean